ทำไมทอง 18 k จึงเหมาะสำหรับการนำมาทำเครื่องประดับที่สุด

คลิกเพื่ออ่านหัวข้อที่สนใจ

ทอง 18 k คืออะไร ? 

เวลาที่เราจะเลือกซื้อเครื่องประดับสักชิ้นหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่เรามักจะพบคือความแตกต่างของช่วงราคา เช่น แหวนหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่ร้านหนึ่งกลับมีราคาเป็นหมื่น ส่วนอีกร้านหนึ่งมีราคาหลักพัน หรือ บางครั้งก็หลักร้อย ทั้ง ๆ ที่ ทั้งสองร้านก็บอกว่า ร้านของตัวเองนั้นใช้ทองแท้ทั้งคู่ สาเหตุที่ราคาของเครื่องประดับแต่ละร้านมีความแตกต่างกันนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการบวกกำไรหรือค่าทำการตลาดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เปอร์เซ็นต์ของทองที่ใช้นั้นมีความแตกต่างกัน วันนี้ FlairDiamond อยากชวนให้ทุกคนรู้จักเรื่องของเปอร์เซ็นต์ทอง เพื่อจะทำให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อเครื่องประดับได้อย่างตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงใจ 

ทอง k คืออะไร ?

คำหนึ่งที่เรามักจะได้ยินบ่อย ๆ คือคำว่า ทอง k (ทองเค) แล้วทอง k นี่มันเป็นทองมั้ย ? เป็นทองจริงหรือเปล่า ? คนขายทองเคนั้นหลอกคุณอยู่หรือเปล่า ?  ความเป็นจริงคือแบบนี้ครับ ตัว k นี่ย่อมาจากคำว่า karat ซึ่งเป็นหน่วยสำหรับการวัดเปอร์เซ็นต์ทอง ตัวนี้เป็นคนละหน่วยกับ Carat ของเพชรนะครับ สำหรับทอง k นั้น มีหลายระดับตามเปอร์เซ็นต์ทองดังนี้ครับ สำหรับโลหะอื่น ๆ ที่นำมาผสมมักจะเป็นโลหะประเภท เงิน ทองแดง สังกะสี ซึ่งสัดส่วนในการผสมนั้นก็จะทำให้เกิดสีสันที่แตกต่างกัน เช่น ทองคำขาว ทองคำที่ออกสีสันของทองชัดเจน หรือพวกพิ้งค์โกลด์ ก็เกิดจากสัดส่วนของโลหะที่นำมาผสมนั่นเอง 

>> ทอง 9 k มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 37.5 % 

ทองลักษณะนี้จะนิยมใช้สำหรับแหวนราคาถูก เพราะใช้ไปได้สักพักมักจะมีปัญหาทองซีด หรือ ทองกรอบตามมา ทำให้ตัวเครื่องประดับเมื่อใช้ไปนาน ๆ จะดูหมองลงไปจนถึงการมีรอยแตกร้าว บิ่น หัก จนซ่อมแซมไม่ได้ในที่สุด ด้วยสาเหตุนี้ ทอง 9 k จึงไม่นิยมนำมาเป็นตัวเรือนสำหรับอัญมณี หรือ เพชรที่มีราคาสูงนั่นเอง 

>> ทอง 14 k มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 58.3 % 

ทอง 14 k นั้นนิยมใช้ในงานแหวนเพชรที่ประเทศอเมริกา สีและความสวยงามของตัวเรือนทองคำจะแตกต่างจากทอง 18 k ที่นิยมในประเทศไทย และ ยุโรป

>> ทอง 18 k มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 75 % 

ทอง 18 k นั้นเป็นมาตรฐานของแหวนเพชรระดับ Fine Jewelry มาตรฐานระดับเดียวกับแหวนเพชรของแบรนด์ระดับ High-End ที่นิยมกันในยุโรป เครื่องประดับทอง 18 k นั้นเป็นมาตรฐานระดับที่คุณภาพสูงที่สุดสำหรับแหวนทองฝังเพชร เพราะหากเปอร์เซ็นต์ทองมากกว่า 75 % แล้ว ตัวเรือนจะมีความอ่อนของทองมากจนเกินไป จนทำให้เพชรที่ฝังลงไปนั้นอยู่ไม่คงทนถาวร รวมถึงหากเปอร์เซ็นต์ทองมากจนเกินไป ตัวเครื่องประดับอาจมีอาการ “บิ่น” ได้ง่าย เช่น หากคุณซื้อสร้อยทอง 23 k ในร้านทองมาใส่ เมื่อใช้งานไปสักพักสิ่งที่จะพบคือ “ตะขอบิ่น” เพราะทอง 23 k นั้นตัววัสดุมีความอ่อนนั่นเอง  

>> ทอง 23 k มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 96.5 % 

ทอง 23 k เรามักจะพบได้ตามร้านทองทั่ว ๆ ไป ร้านทอง Aurora หรือ ห้างทองเยาวราช ก็จะนิยมขายทอง 23 k กันเป็นหลัก เนื่องจากสามารถอ้าอิงราคาทองจากสมาคมค้าทองคำได้ อีกทั้งตัวทองนั้นยังมีความแข็งมากพอที่จะพกพาได้สะดวก แตกต่างจากทอง 24 k ซึ่งเป็นทอง 99.99% นั่นเอง 

>> ทอง 24 k มีทองคำเป็นส่วนประกอบอยู่ 99.99 % 

ทอง 24 k นั้นมีอีกชื่อหนึ่งที่เรานิยมเรียกกันจนติดปากว่า “ทองสวิส” หรือบางคนก็เรียกว่า “ทองร้อย” ตัวทอง 24 k นั้นโดนปกติเราจะเห็นได้ในลักษณะของทองคำแท่ง ทอง 24 k นั้นจะมีความอ่อนตัวมากเกินกว่าจะนิยมนำมาทำเครื่องประดับ เพราะอาจทำให้เพชร หรือ อัญมณีที่มีค่านั้นมีโอกาสหลุดจากตัวเรือนได้ คนมักซื้อทองสวิสเหล่านี้เก็บในลักษณะทองคำแท่ง หรือ เทรดลงทุนทางออนไลน์มากกว่าที่จะนำมาทำเครื่องประดับนั่นเอง 

แล้วถ้าจะซื้อเครื่องประดับควรเลือกซื้อทองกี่ k ถึงจะดี ?

หากคุณกำลังมองหาเครื่องประดับที่มีความคงทน แข็งแรง สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันแล้วดูมีราคา ไม่ดูเหมือน “ทองเหลือง” เราขอแนะนำทอง 18 k เนื่องจากมีสัดส่วนของทองต่อโลหะอื่น ๆ ที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ตัวเรือนของคุณมีความแข็งแรง ดูสง่างาม ช่วยเสริมตัวเพชร หรือ ตัวอัญมณีที่คุณนำมาประดับในตัวเรือน ทอง 18 k นั้นนอกจากจะใส่เพื่อความสวยงามแล้ว ยังเหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินอีกด้วย เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้ในการซื้อขายในระดับสากล แตกต่างจากทอง 9 k หรือ 14 k ที่เวลาขายต่อมักจะเจอปัญหาราคาตกเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวเรือนทองประเภทนี้มีโอกาสเสียหายจนซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนใหม่ได้ยากนั่นเอง 

Flair Diamond ใช้ทองมาตรฐานระดับสากล

เครื่องประดับของเราทุกชิ้น ใช้ทองคุณภาพระดับสากลคือ 18 k เพราะนอกจากตัวเรือนที่เราขึ้นมาอย่างปราณีตแล้ว เราต้องการให้เครื่องประดับของเราทุกชิ้นช่วยเสริมสง่าให้แก่ผู้สวมใส่ อีกทั้งยังมีความคงทน ใช้ได้นาน เพราะสำหรับเราแล้วเครื่องประดับนั้น เป็นตัวแทนของความทรงจำดี ๆ ที่จะคงอยู่ในรูปลักษณ์ที่สวยงามตราบนานเท่านาน 

เราการันตีในคุณภาพสินค้า 

เครื่องประดับของเราทุกชิ้นมีความคงทนแข็งแรง และได้รับการดีไซน์ รวมถึงสร้างขึ้นมาจากช่างทองที่มีประสบการณ์สูง เราการันตีดูแลเครื่องประดับทุกชิ้นที่เราขายตลอดไป ไม่ว่าต้องการนำเครื่องประดับมาชุบ ทำความสะอาด รวมถึงการปรับไซส์ เรายินดีดูให้ตลอดไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 

ทอง 18 k คืออะไร
ทองแต่ละลักษณะมีความนิยมในการนำมาใช้งานที่แตกต่างกัน
รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ
รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ

ลูกชายรุ่นที่ 2 ที่มารับช่วงต่อจากโรงงานเครื่องประดับย่านบ้านหม้อซึ่งทำธุรกิจเครื่องประดับคุณภาพมากว่า 40 ปี